แชร์

CRM ประสิทธิภาพที่ดีของ Call Center เพื่อธุรกิจคุณ

อัพเดทล่าสุด: 4 ก.ค. 2024
1335 ผู้เข้าชม

ระบบ CRM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Call Center ได้อย่างไร

ความหมายของ CRM

CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management คือการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยมีเป้าหมายคือการทำให้ลูกค้ามีความพอใจสูงที่สุดจากการใช้สินค้าหรือบริการของธุรกิจ จนเกิด Brand Loyalty ต่อแบรนด์ขึ้น หมายความว่าลูกค้าจะเลือกใช้สินค้าและบริการของเราเสมอ โดยไม่เปลี่ยนใจไปใช้แบรนด์อื่นโดยเฉพาะคู่แข่งง่าย ๆ นอกจากนี้แล้วข้อมูลต่าง ๆ ที่เรามีการเก็บไว้เพื่อให้บริการลูกค้าของเรา ยังสามารถจะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น เพื่อการวางแผนการตลาดต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย ดังนั้นการทำ CRM จึงจำเป็นมาก ๆ สำหรับเจ้าของกิจการ และธุรกิจทุกประเภท เพื่อที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และเปลี่ยนเป็นยอดขายในระยะยาวได้


ระบบ CRM (Customer Relationship Management Software) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานใน Call Center ได้ เนื่องจากเป็นระบบที่รวบรวมข้อมูลของลูกค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ลูกค้าได้ติดต่อมายัง Call Center เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยไม่ต้องขอข้อมูลซ้ำจากลูกค้า หากองค์กรของคุณมีระบบ CRM ซึ่งได้การออกแบบ ให้ทำงานเข้ากับระบบ call center แล้ว ก็จะสามารถเพิ่มอัตราการแก้ปัญหาในสายแรก ลดระยะเวลาในการคุยสายกับลูกค้า เพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น และสามารถพัฒนาระบบการติดต่อของเจ้าหน้าที่ในองค์กรให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น


การเพิ่มอัตราการแก้ปัญหาให้สำเร็จในสายแรก

ระบบ CRM จะช่วยทำให้เข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้หลายมิติ แต่สิ่งสำคัญที่นำไปสู่การแก้ปัญหาของลูกค้า ประกอบด้วย การมีข้อมูลจำเป็นครบถ้วน การฝึกฝนและอำนาจในการตัดสินใจของผู้ให้บริการ เมื่อเจ้าหน้าที่รับสาย สามารถแก้ปัญหาของลูกค้าให้สำเร็จในสายแรก ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพของ call center ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกค้า และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า เนื่องจากการใช้บริการไม่ได้ใช้เวลามากขึ้นหรือได้รับการโทรกลับ


ลดระยะเวลาในการสนทนา

ดัชนีอีกตัวหนึ่งที่ใช้วัดประสิทธิภาพของ call center คือระยะเวลาในการคุยlkp การที่เจ้าหน้าที่จะใช้เวลานานแค่ไหนในการสนทนาจนแก้ปัญหาเสร็จสมบูรณ์นั้น ระยะเวลาโทรนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหา หรือคำถามของสายที่โทรเข้ามา และลักษณะของลูกค้า ทั้งนี้ หากต้องการให้ระยะเวลาในการคุยสายสั้นลง จะต้องมีเครื่องมือช่วยเหลือในการค้นหาข้อมูลเพื่อใช้สำหรับแจ้งข้อมูล หรือแก้ปัญหาตามที่ลูกค้าต้องการ การใช้ระบบ CRM ที่มีระบบปฏิบัติการเชื่อมต่อระหว่าง call center และระบบของหน่วยงานอื่น ๆ และสามารถค้นหาข้อมูลแบบ real-time จะทำให้เกิดความรวดเร็วในการแก้ปัญหา และพัฒนาความพึงพอใจแก่ลูกค้าได้


พัฒนาการขายให้เพิ่มขึ้นและการขายต่อเนื่อง

ในหลายธุรกิจ เจ้าหน้าที่รับสาย (Inbound Call Agent) จะถูกมอบหมายให้นำเสนอสินค้า นอกเหนือจากจากให้บริการด้านข้อมูลเพียงอย่างเดียว หากมีระบบ CRM ที่ดี ในช่วงการพูดคุยกับลูกค้าเจ้าหน้าที่สามารถค้นหาข้อมูลและประวัติการสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งหลังจากที่ได้ตอบคำถามที่ลูกค้าต้องการทราบแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถเปิดการขายสินค้าที่ลูกค้าน่าจะสนใจ  หรืออาจจะเป็นการขายสินค้าต่อเนื่องให้เพิ่มขึ้น  และสามารถใช้ข้อมูลในระบบ CRM เพื่อติดตามการขายที่อาจจะเคยนำเสนอให้ลูกค้า และรอลูกค้าตัดสินใจได้




การปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน call center ให้มีประสิทธิภาพ

ปัญหาที่มักจะพบในการทำงานของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการทำงานบนจอแสดงผล ในกรณีที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเปิดหน้าจอแสดงผลหลาย ๆ จอพร้อมกัน เพื่อไว้เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ป้อนข้อมูลการให้บริการพร้อมทั้งต้องส่งข้อมูลออกไปยังพนักงานอื่นเพื่อหาข้อมูล ตรวจสอบสถานะและจัดการข้อมูลพื้นฐานอื่น ๆ ด้วย


หน้าจอแสดงผลของระบบ CRM นั้นจะมีความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถออกแบบเครื่องมือระบบจอแสดงผลที่จะดึงเอาข้อมูลจากฐานข้อมูลลูกค้าใน application ของ CRM และข้อมูลจาก application ต่าง ๆ ใน call center มาแสดงบนจอแสดงผลที่มีการจัดการไว้ได้ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ เข้าสู่ขั้นตอนการทำงานในส่วนของแต่ละคนได้ในเวลาน้อยที่สุด ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้รวดเร็วขึ้น พัฒนาการบริการลูกค้าและพนักงาน call center ยังลดความผิดพลาดจากการทำงานได้อีกด้วย


จะเห็นได้ว่า หากองค์กรของคุณได้จัดกระบวนการทำงานให้เหมาะสม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่  เพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจต่อไป


ซึ่งขั้นตอนในการทำ ระบบ CRM ที่ดีสามารถดึงมาใช้โดยมีประสิทธิภาพมีอยู่ 4 ขั้นตอน


1.รวบรวมข้อมูลของลูกค้า

สร้างรายชื่อติดต่อที่มีการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เช่น ชื่อผู้ติดต่อ ชื่อบริษัทที่สังกัด ช่องทางการติดต่อ และรายละเอียดอื่น ๆ ที่ต้องการเก็บข้อมูล เป็นต้น


2.วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า

จากนั้นจึงจัดแบ่งตามกลุ่มและหมวดหมู่ เพื่อง่ายต่อการเรียกใช้ ตั้งแต่ชนิด ขนาด รายได้ ที่ตั้ง และความต้องการขององค์กร ถือเป็นการจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าไปในตัว รวมถึงการติด Tracking ในเว็บไซต์เราเพื่อช่วยให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น การที่รู้ Journey ของลูกค้าว่าเค้ากำลังสนใจอะไร เป็นกุญแจสำคัญในการปิดการขาย แถมคุณยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ต่อเพื่อพัฒนาธุรกิจคุณได้อีกด้วย


3.สื่อสาร ติดต่อ พูดคุยกับลูกค้า

เพื่อเข้าใจปัญหาและความต้องการรวมถึงสร้างความไว้วางใจ นับเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับระบบ CRM ทีเดียว เพราะหากขาดการติดต่อพูดคุยที่มีประสิทธิภาพ ย่อมไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าใช้สินค้าบริการขององค์กรได้โดยการติดต่อกระชับความสัมพันธ์สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Email Marketing โดยทำการส่งอีเมลไปอวยพรวันเกิดแบบตั้ง Auto หรือนำเสนอโปรโมชั่น ก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และลูกค้า


4.คัดเลือกและเสนอสินค้าแก่ลูกค้าแต่ละราย

ถ้าเป็นไปได้ควรให้ตรงกับเงื่อนไขและความต้องการของลูกค้ามากที่สุดเท่าทำได้ ให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับความคุ้มค่าและเป็นธรรมกับราคาที่จ่ายไป เพื่อดึงดูดลูกค้าไว้ในระยะยาว 


เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้าต้องการอะไร?


การรู้ความต้องการของลูกค้าสามารถทำได้ได้หลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น การแยก Journey ภายในเว็บไซต์ให้ชัดเจน หากลูกค้าเข้ามาอ่านหน้าบทความของเราและบทความนั้นๆ ได้มีการกำหนดหัวเรื่องไว้อย่างชัดเจนแล้ว หากเราแยก Journey และทำกลยุทธ์ไว้อย่างชัดเจนแล้ว การที่จะรู้ว่าลูกค้าของเรามีความต้องการอะไร ย่อมทำได้ไม่ยากเลย



ทำไมจึงควรเริ่มใช้ CRM

การทำระบบ CRM เบื้องต้นอาจดูมีความซับซ้อนเพราะมีฟังก์ชั่นมากมายให้ใช้งาน แต่ถ้าคุณใช้เป็นแล้ว องค์กรจะได้รับประโยชน์มากมายจากระบบ CRM ระดับสากล เราจะแนะนำให้เปลี่ยนการทำงานมาใช้ระบบ CRM ถ้าหากถ้าองค์กรของคุณยังคุ้นชินกับการจดบันทึกหรือทำข้อมูลลง Microsoft Excel อยู่


การทำงานผ่าน Excel vs ระบบ CRM

การใช้ Microsoft Excel นั้นนอกจากจะขาดความสะดวก ยังใช้เวลามากอีกด้วย เมื่อนำมาเทียบกันแล้วระบบ CRM สำเร็จรูปจะมีขีดความสามารถมากกว่า ด้วยการจัดการแบ่งข้อมูลของผู้ใช้งานหรือลูกค้า คอยแยกหมวดหมู่ เรียบเรียงอย่างเป็นระบบโดยอัตโนมัติ ทั้งยังช่วยจัดลำดับความสำคัญลูกค้า ทั้งจากช่วงอายุ ความต้องการ และเงินที่ใช้จ่ายไปอีกด้วย


นอกจากดึงข้อมูลลูกค้ามาใช้ง่ายและสะดวก ระบบ CRM ยังช่วยให้พนักงานติดตามความคืบหน้าการขายและจัดการคำสั่งซื้อของลูกค้าได้รวดเร็ว ตรวจสอบและประเมินยอดขายรวมขององค์กรได้ดี ทั้งยังเชื่อมต่อช่องทางอื่นๆ เช่น อีเมล, โทรศัพท์, โซเชี่ยมีเดีย ทำให้การติดต่อกับลูกค้าคล่องตัวมีประสิทธิมากขึ้น สำคัญคือช่วยลดความผิดพลาด (Human Errors) ได้เป็นอย่างดี


ระบบ CRM ทำประโยชน์ได้กับทุกแผนกในองค์กร

คุณยังสามารถนำข้อมูลที่ได้จากระบบ CRM นี้ไปให้ฝ่ายหรือแผนกอื่นนอกจากฝ่ายขายใช้งาน ตั้งแต่ฝ่ายผลิตที่นำยอดขายและข้อมูลว่าลูกค้านิยมใช้งานสินค้าชนิดใด มียอดสั่งซื้อสินค้าแบบไหนมากที่สุด เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตหรือจัดสรรในส่วนคลังสินค้า หรือการพัฒนาปรับปรุงส่วนต่างๆ จัดทำคู่มือสินค้าให้สะดวกหาง่ายรองรับลูกค้ามากขึ้น


ไปจนถึงฝ่ายการตลาดที่นำเอาข้อมูลว่าลูกค้านิยมสินค้าชนิดใด ควรส่งเสริมการขายสินค้าชนิดไหนมากที่สุด อาศัยข้อมูลกลุ่มลูกค้า ทั้งจากช่วงอายุ อาชีพ หรือเพศ ว่าเหมาะสมและนิยมสินค้าชนิดไหน จะได้ทำการตลาดให้กับลูกค้ากลุ่มที่มีความสนใจ นำไปสู่การเพิ่มยอดขายและผลกำไรให้กับองค์กรในที่สุด


ดังนั้นสามารถกล่าวว่าระบบ CRM จะช่วยเพิ่มศักยภาพรวมขององค์กรให้มากขึ้นก็ไม่ผิด แต่ทางหากอยากได้ระบบที่ดีแบบเต็มรูปแบบเราจะแนะนำองค์กรให้รู้จักกับระบบ ERP เป็นระบบบริหารทรัพยากรภายในองค์กรและครอบคลุมการทำงานของทั้งองค์กรมากขึ้น

CRM มีความจำเป็นต่อธุรกิจอย่างไร

หลายคนอาจจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดองค์กรธุรกิจจึงให้ความสำคัญกับ CRM เป็นอย่างมาก ต้องขอบอกว่า ระบบ CRM นั้นช่วยให้แบรนด์รู้จักลูกค้าของตัวเองดีขึ้น ได้ข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ต่อว่า มีวิธีการทำงานอะไรบ้าง ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาวต่อไป เพราะหากลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์แล้ว ก็จะส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจองค์กรได้ไม่ยาก


ระบบ CRM มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ

- ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นหาลูกค้ารายใหม่ และนำต้นทุนที่เหลือจากตรงนี้มาใช้ในการรักษาฐานลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

- ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทุ่มงบประชาสัมพันธ์หาลูกค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าใหม่ๆ นั้น อาจมีความเสี่ยงที่ต้นทุนจะพุ่งสูงขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการศึกษาลูกค้าเดิม เพราะพวกเขารู้จักสินค้าเราดีอยู่แล้ว หากสามารถทำการตลาดตอบโจทย์พวกเขาได้ โอกาสที่จะเกิดการซื้อซ้ำและเกิด Brand Loyalty ย่อมมีตามมาแน่นอน

- ช่วยพัฒนาการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ และยังช่วยวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต ทั้งกำไร ปัญหาระยะสั้น ระยะยาว และนำไปวางแผนทางการตลาดที่ดีขึ้นได้

- เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พนักงานระบุลูกค้าที่ทำกำไรได้มากที่สุด ทำให้ช่วยเพิ่มมูลค่าจากลูกค้าเดิม และลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนและให้บริการแก่ลูกค้าพรีเมี่ยมได้

- ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์หรือเซลล์กับลูกค้าได้ และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น


อุปสรรคของกรทำ CRM

ถึงแม้ CRM จะเป็นระบบที่ทั่วโลกยอมรับ ว่ามีส่วนสำคัญต่อภาคธุรกิจ แต่ก็ยังมีปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้างเช่นกัน


1. การไม่ได้รับความสนับสนุน จากผู้บริหารระดับสูง เนื่องจากการจะผลักดันแนวคิด หรือกลยุทธ์ CRM เข้าสู่องค์กรใดๆได้นั้นจะต้องเป็นการผลักดันจากผู้บริหารขององค์กรลงมายังพนักงานระดับล่าง หรือ Top down driven เพราะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนทัศนคติของคนทั้งองค์กร


2. คนและวัฒนธรรมองค์กรที่มีแรงต้านต่อการเปลี่ยนแปลงสูงยิ่งยาก เนื่องจาก พฤติกรรมของคนไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้ 80% ของปัญหาที่เกิดขึ้นกับ CRM มาจากการเปลี่ยนคนและองค์กร


3. ผู้บริหารส่วนใหญ่คิดว่า CRM ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการซื้อซอฟต์แวร์ราคาแพงมา ไม่ต้องดำเนินการอะไรต่อ ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า 


4 . การปรับเปลี่ยนจากการบริหารลูกค้าสัมพันธ์แบบเดิม ๆ มาเป็นรูปแบบใหม่ที่ละเอียดมากขึ้น เป็นระบบอัตโนมัติ และก้าวเข้าสู่ระบบซอฟต์แวร์ ที่มือใหม่อาจจะมองว่าเข้าถึงยาก จึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวกันบ้างในช่วงแรก


5 . การติดตามการใช้งานหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นของระบบ CRM อาจทำให้เสี่ยงต่อการถูกแฮ็กข้อมูลได้ แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการดูแลระบบ CRM หรือใช้ Sales CRM มาช่วยในการปิดช่องโหว่นี้


การทำ CRM หรือ การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากที่จะมัดใจลูกค้า การเพื่อให้ลูกค้านั้นเป็นลูกค้าที่ยั่งยืนยาวนานและเกิดความรู้สึกผูกพันธ์กับสินค้าและบริการจนภักดีกับบริษัทของเราตลอดไป


หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยด้าน Customer Service สำหรับการทำ CRM ให้ CMS Outsourcing Contact Center เป็นผู้ช่วยธุรกิจของคุณ เราให้บริการ Outsourcing Contact Center ทั้ง Inbound Call Center และ Outbound Call Center ด้วยประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ เรายินดีให้บริการและให้คำปรึกษาในเรื่องของ Call Center ให้กับทุกธุรกิจ อีกทั้งยังมี Contact Center Solutions ระบบที่ได้มาตรฐาน และมีประสิทธิภาพที่สุด




#CustomerRelationshipManagement #CRM #CustomerService #CMSOutsourcingContactCenter #OutsourcingCallCenter #Outsourcing #CallCenter #CustomerService #InboundCallCenter #OutboundCallCenter #ContactCenterSolutions #ลูกค้าสัมพันธ์ #เอ้าท์ซอร์ส #คอลเซ็นเตอร์เอ้าท์ซอร์ส #ลูกค้าสัมพันธ์


บทความที่เกี่ยวข้อง
เทคโนโลยีเบื้องหลัง Outsource Call Center ที่ช่วยยกระดับ Customer Experience
ในยุคดิจิทัล การให้บริการลูกค้าไม่ใช่แค่เรื่องของคน แต่ยังเป็นเรื่องของ “เทคโนโลยี” ด้วย ระบบ Call Center สมัยใหม่ผสานเครื่องมืออัตโนมัติและระบบ CRM เพื่อมอบประสบการณ์ที่รวดเร็ว แม่นยำ และเข้าถึงใจลูกค้าอย่างแท้จริง บทความนี้จะพาไปดูว่าเทคโนโลยีใดบ้างที่ขับเคลื่อน Outsource Call Center ให้เป็นหัวใจของการดูแลลูกค้าในยุคนี้
13 มิ.ย. 2025
เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจด้วยบริการ Outsource Call Center มืออาชีพ
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น การให้บริการลูกค้าที่รวดเร็วและมีคุณภาพถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ การใช้บริการ Outsource Call Center จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผล บทความนี้จะชี้ให้เห็นถึงประโยชน์และแนวทางการใช้บริการ Call Center ที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณ
13 มิ.ย. 2025
5 วิธี ที่ CRM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
CRM ระบบจัดการข้อมูลลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ CRM ช่วยรวบรวมและจัดการข้อมูลลูกค้าให้อยู่ในระบบเดียว ใช้งานง่าย เข้าถึงได้แบบเรียลไทม์ ลดปัญหาข้อมูลกระจัดกระจาย เพิ่มความเร็วในการทำงาน พร้อมยกระดับการบริการให้ลูกค้าประทับใจ
13 มิ.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy